นโยบายความเป็นส่วนตัวลูกค้า (PRIVACY POLICY)
บริษัท อฬิดา จิวเวลรี่ จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว และเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยจะคุ้มครองและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีผลบังคับใช้กับบริษัทบริษัทจึงมีจุดประสงค์จัดทำและแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท ซื้อสินค้า และ/หรือใช้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ภายใต้ Brand “Alida Jewelry” (“ลูกค้า”) เพื่อแจ้งให้รับทราบ โดยบริษัทจะจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับนโยบายนี้เท่านั้น
การยอมรับนโยบาย เป็นสิ่งสำคัญลูกค้าควรต้องอ่านนโยบายฉบับนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบว่า ทางบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไรและนำข้อมูลส่วนตัวของท่านไปใช้อย่างไร โดยเมื่อลูกค้าติดต่อ ซื้อสินค้า และ/หรือใช้บริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท ทางบริษัทจะถือว่าลูกค้าตกลงและยอมรับนโยบายฉบับนี้แล้ว ดังนั้นหากลูกค้าไม่ตกลงยอมรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวให้แก่ท่าน
นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการซื้อขายสินค้าของบริษัทโดยตรง ซึ่งอาจเป็นการติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อ สื่อสาร ทั้งในลักษณะที่เป็น Offline ได้แก่ การซื้อสินค้าหน้าร้าน หรือเป็นการติดต่อซื้อสินค้าโดยตรงกับบริษัท และ Online ซึ่งรวมถึงการติดต่อสื่อสารผ่านเว็บไซต์ หรือ Social Media (Facebook / Line Official Account หรือช่องทางออนไลน์อื่น) ของบริษัท
ข้อสงวนสิทธิของบริษัท บริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การขาย การจัดส่งสินค้า รวมถึงการให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท ทั้งนี้การที่ลูกค้ายังคงติดต่อสื่อสาร ซื้อสินค้า และ/หรือบริการของบริษัทอยู่ภายหลังการปรับปรุงนโยบาย จะถือว่า ลูกค้าตกลงยอมรับนโยบายฉบับแก้ไขเสมอ
นิยามศัพท์
1.) ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดาคนหนึ่งนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
2.) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทมีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงตัวแทนผู้มีอำนาจลงนาม หรือบุคคลเกี่ยวข้องอื่นของลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล
ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย กรณีที่ลูกค้านำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของลูกค้าให้แก่บริษัท เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทางบริษัทจะถือว่า ลูกค้าได้ให้การรับประกันสิทธิในการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นบุคคลภายนอกทั้งหมดให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลภายใต้นโยบายฉบับนี้แล้ว
แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อาจได้รับจาก 2 ที่มา ดังนี้
1.) การติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมี ได้แก่ โทรศัพท์ Social Media / Website
2.) การเข้าใช้บริการหน้าร้านของบริษัทหรือการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท
3.) การเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ
4.) การที่กรอกข้อมูล รวมถึงเอกสารแบบฟอร์มอื่นใดเพื่อการซื้อสินค้า และการใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัท
5.) การเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ ด้วยระบบของบริษัทที่อาจเก็บ รวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท
6.) ได้รับจาก Social Media หรือสื่อสาธารณะ, พันธมิตรทางการค้า, สถาบันการเงิน, ห้างสรรพสินค้า, ผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทได้ว่าจ้างเข้ามาเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและให้บริการของบริษัท หรือบุคคลอื่นที่อาจแนะนำท่านมายังบริษัท
ข้อมูลที่มีการประมวลผล
ในการติดต่อประสานงาน การซื้อขายสินค้า การชำระราคา การจัดส่งสินค้าระหว่างบริษัทและท่าน บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ได้แก่ ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของลูกค้าที่บริษัทอาจจัดเก็บด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีการติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ร้านค้า และการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่อาจจัดขึ้น
สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่าน Website ของบริษัท
1.) ข้อมูลสำหรับการสร้างบัญชีผู้ใช้งาน ซึ่งลูกค้าต้องสร้างบัญชีดังกล่าวก่อนการสั่งซื้อสินค้าได้ ซึ่งรวมถึง email หรือ Social Media Account (Facebook / Google / etc. ที่ต้องการใช้เชื่อมโยง), password, ชื่อนามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ วันเกิด ที่อยู่ รวมถึงข้อมูล user account ที่จะมีการสร้างเพื่อเชื่อมโยงลูกค้ารายบุคคลอีกครั้ง
2.) ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า รวมถึงข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดที่ลูกค้าอาจดำเนินการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท
3.) ข้อมูลของลูกค้า ได้แก่ ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง หมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่าย (IP) ข้อมูลการเข้าระบบ ประเภทเบราเซอร์ และเวอร์ชั่น การตั้งค่าเวลาและที่ตั้ง การเชื่อมต่อและประเภทของเบราเซอร์ที่ใช้เชื่อมต่อ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าเว็บไซต์ของบริษัท
4.) การใช้คุกกี้ ซึ่งลูกค้าสามารถศึกษานโยบายคุกกี้ของบริษัทได้เพิ่มเติมที่ : Cookie Policy
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้
1.) การติดต่อประสานงาน การปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ที่บริษัทอาจมีแก่ลูกค้า รวมถึงการดำเนินธุรกรรมในการซื้อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่ลูกค้าให้สำเร็จ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้าที่ซื้อสินค้า และ/หรือที่ติดต่อใช้บริการ การตรวจสอบความถูกต้องของคำสั่ง การตรวจสอบการชำระราคา การจัดส่งสินค้า การให้บริการสนับสนุนอื่นแก่ลูกค้า
2.) การตอบข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ การจัดการข้อร้องเรียนที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท
3.) การปฏิบัติตามสัญญาอื่นที่ลูกค้าและบริษัทเป็นคู่สัญญา (เช่น สัญญาซื้อขาย หรือเงื่อนไขการใช้บริการที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท) หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า รวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรมที่ลูกค้าอาจเข้าร่วมทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้ จัดส่งหรือส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าภายใต้สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาการให้บริการอื่นที่อาจเกี่ยวข้อง หรือตลอดระยะเวลาที่ลูกค้ายังมีบัญชีผู้ใช้งานหน้าเว็บไซต์กับบริษัทอยู่
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท ในการปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิที่บริษัทอาจมีต่อลูกค้า เช่น ผู้ให้บริการชำระราคา ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการจัดส่งสินค้า ผู้ร่วมธุรกิจที่อาจร่วมกันในการจัดกิจกรรม และผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น ที่ปรึกษาต่าง ๆ (รวมถึงผู้ตรวจสอบบัญชีหรือผู้ตรวจสอบระบบควบคุมภายใน) ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าวทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้แก่ ผู้ให้บริการที่ดำเนินกิจการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย
หน่วยงานราชการต่างๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น โดยบริษัทจะเปิดเผยส่งต่อข้อมูลเฉพาะเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น
บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น ทั้งนี้ในกรณีการขอใช้สิทธิในการลบหรือทำข้อมูลให้เป็นนิรนาม ทางบริษัทอาจไม่สามารถให้บริการสินค้าหรือบริการอื่น ๆ แก่ท่านหรือปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ที่มีกับท่านได้ บริษัทจึงขอสงวนสิทธิในการพิจารณาปฏิเสธการขอลบข้อมูลดังกล่าวหากยังมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอยู่ (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้